รับเหมาแล้วขาดทุน ถือเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 จำเลยสั่งซื้อผ้าสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน คิดเป็นเงิน 1,106,380 บาท จำเลยได้รับสินค้าไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยชำระราคาเพียง 300,000 บาท ส่วนที่เหลือไม่ชำระ แต่จะขอคืนสินค้า ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 806,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยสั่งซื้อผ้าไปจากโจทก์จริง มูลค่า 1,106,380 บาท ชำระมัดจำไป 200,000 บาท และภายหลังชำระเพิ่มอีก 100,000 บาท คงค้างชำระ806,380 บาท เหตุที่จำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์เนื่องจากบริษัทธนินี จำกัด สั่งซื้อผ้าจากจำเลยเพื่อนำไปตกแต่งโรงแรมเสาวลักษณ์ธานี โดยชำระเงินเป็นเช็คแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ต่อมาบริษัทธนินี จำกัด มีหนังสือขอยกเลิกการสั่งซื้อผ้าทั้งหมดและขอคืนผ้าที่สั่งซื้อไปโดยอ้างว่าบริษัทกำลังประสบภาวะขาดแคลนทางการเงิน ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้จำเลยต้องรับภาระทั้งหมด จำเลยขอคืนผ้าส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ทั้งหมดแก่โจทก์ ซึ่งโจทก์ส่งพนักงานมารับไปจากจำเลยแล้วบางส่วนสำหรับผ้าส่วนที่ใช้ทำสินค้าไปแล้วจำเลยยอมรับผิดขอชำระราคา 192,360 บาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 806,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 792,381 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาต่อไปว่า การที่จำเลยไม่สามารถชำระหนี้แก่โจทก์ได้เพราะบริษัทธนินี จำกัด ผู้ซื้อผ้าจากจำเลยอีกทอดมีปัญหาทางการเงินไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่จำเลยเป็นเหตุสุดวิสัย ทำให้จำเลยหลุดพ้นไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเห็นว่า เหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8หมายถึง เหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นหรือจะให้ผลพิบัติไม่มีใครอาจป้องกันได้ แต่กรณีของจำเลยเป็นเรื่องการประกอบธุรกิจการค้าการประสบปัญหากำไรหรือขาดทุนอันเป็นปกติทางการค้าย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ กรณีไม่อาจถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219 วรรคหนึ่งฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”

พิพากษายืน

สรุป

จำเลยซื้อผ้าไปจากโจทก์ การที่จำเลยไม่สามารถชำระหนี้แก่โจทก์ได้เพราะผู้ซื้อผ้าจากจำเลยอีกทอดหนึ่งมีปัญหาทางการเงินไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่จำเลย เป็นเรื่องการประกอบธุรกิจการค้า ซึ่งการประสบปัญหากำไรหรือขาดทุนเป็นปกติทางการค้าย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่อาจถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219 วรรคหนึ่ง