ผิดสัญญาก่อสร้าง สามารถยื่นฟ้องได้หรือไม่

ผิดสัญญาก่อสร้าง สามารถยื่นฟ้องได้หรือไม่

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

ศาลแพ่งมีคำสั่ง ให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 บัญญัติว่า ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ (1) การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (2) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (3) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นไม่ตรงกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (4) ผู้พิพากษา หรือตุลาการซึ่งพิจารณาคดีนั้นได้ทำความเห็นแย้งไว้ในคำพิพากษาหรือ (5) เป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยการใช้วิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่พิพาทตามมาตรา 16…อุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ว่า คณะอนุญาโตตุลาการกำหนดประเด็นข้อพิพาทขึ้นใหม่ในคำชี้ขาดแทนประเด็นข้อพิพาทเดิม ไม่อยู่ในอำนาจของคณะอนุญาโตตุลาการที่จะกระทำได้โดยฝ่ายเดียวเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับสำนักงานศาลยุติธรรมว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า ก่อนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องได้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรมกล่าวหา บริษัทบ้านคุณ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กับผู้คัดค้านว่าผิดสัญญาก่อสร้างบ้าน ขอให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ผู้คัดค้านทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ร้อง บริษัทบ้านคุณ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน โดยผู้คัดค้านเรียกตัวเองว่าผู้คัดค้านที่ 1 และบริษัทบ้านคุณ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เรียกตัวเองว่า ผู้คัดค้านที่ 2 โดยคัดค้านว่า ผู้คัดค้าน (ผู้คัดค้านที่ 1) ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และต่อมาผู้คัดค้าน (ผู้คัดค้านที่ 1) กับผู้ร้องได้ตกลงเลิกสัญญาระหว่างกัน ผู้ร้องไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากผู้คัดค้านได้ ส่วนบริษัทบ้านคุณ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (ผู้คัดค้านที่ 2) คัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นนิติบุคคลมิได้เป็นคู่สัญญากับผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 (ผู้คัดค้าน) กระทำโดยลำพังและผู้คัดค้านที่ 2 ไม่ได้ให้สัตยาบัน ผู้คัดค้านที่ 2 จึงไม่ผูกพันตามสัญญา ผู้คัดค้านทั้งสองไม่ต้องรับผิดต่อผู้ร้อง อนุญาโตตุลาการนัดพร้อมเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาท หน้าที่นำสืบ และกำหนดกระบวนพิจารณาชั้นอนุญาโตตุลาการ โดยกำหนดประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 ว่าผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ต้องรับผิดที่ทำงานที่รับจ้างไม่แล้วเสร็จเพราะผู้ร้องได้ยกเลิกสัญญาพิพาทดังที่ผู้คัดค้านที่ 1 กล่าวอ้างหรือไม่ 2… 3 ผู้คัดค้านที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับผู้คัดค้านที่ 1 หรือไม่ ต่อมาในชั้นทำคำชี้ขาด อนุญาโตตุลาการ เห็นว่า ในการกำหนดประเด็นข้อพิพาทมีการเรียกผู้คัดค้านทั้งสองสลับกัน จึงได้วินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทที่ถูกต้อง คือ ประเด็นข้อพิพาทข้อ (1) ผู้คัดค้านที่ 2 ไม่ต้องรับผิดที่ทำงานที่รับจ้างไม่แล้วเสร็จเพราะผู้ร้องได้ยกเลิกสัญญาพิพาทดังที่ผู้คัดค้านที่ 2 กล่าวอ้างหรือไม่ (2)…(3) ผู้คัดค้านที่ 1 ต้องร่วมรับผิดกับผู้คัดค้านที่ 2 หรือไม่ ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวเป็นการแก้ไขโดยเรียกผู้คัดค้านให้ตรงตามที่ผู้ร้องเสนอข้อพิพาทและผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน การแก้ไขและการชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจึงเป็นไปตามประเด็นที่ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านและชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของผู้คัดค้านจึงไม่ต้องด้วยกรณีที่จะอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 ที่ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของผู้คัดค้านจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์แก่ผู้คัดค้าน ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากนี้ให้เป็นพับ

สรุป

ในชั้นทำคำชี้ขาด อนุญาโตตุลาการ เห็นว่า ในการกำหนดประเด็นข้อพิพาทมีการเรียกผู้คัดค้านทั้งสองสลับกัน จึงได้วินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทที่ถูกต้อง ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวเป็นการแก้ไขโดยเรียกผู้คัดค้านให้ตรงตามที่ผู้ร้องเสนอข้อพิพาทและผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน การแก้ไขและการชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจึงเป็นไปตามประเด็นที่ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านและชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของผู้คัดค้านจึงไม่ต้องด้วยกรณีที่จะอุทธรณ์ได้ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45