งานที่รับจ้างทำชำรุดบกพร่องเมื่อพ้นหนึ่งปี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่

งานที่รับจ้างทำชำรุดบกพร่องเมื่อพ้นหนึ่งปี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7116/2538

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จ้างจำเลยปรับปรุงพื้นดาดฟ้า หลังคาซ่อมแซมห้องน้ำห้องส้วม จำเลยทำเสร็จและส่งมอบงานภายในกำหนดในวันที่ 23 พฤษภาคม 2530 โจทก์รับมอบงานในวันที่ 17 สิงหาคม 2530ซึ่งไม่ปรากฏความชำรุดบกพร่อง ต่อมาเมื่อเดือนเมษายน 2531พื้นดาดฟ้าเกิดรอยแตกร้าวหลายแห่ง ทำให้น้ำฝนไหลซึมผ่านรอยแตกร้าวเข้าไปในตัวอาคาร ทำให้ฝ้าเพดานมีรอยด่างและทรัพย์สินเสียหายจำเลยได้ซ่อมแซมรอยแตกร้าวและขอคืนหลักประกันในการก่อสร้างโจทก์ตรวจสอบแล้วจึงรับมอบงานที่แก้ไขและคืนหลักประกันให้จำเลย ขณะนั้นไม่มีฝน จึงไม่อาจตรวจสอบได้ว่ารอยแตกร้าวที่จำเลยแก้ไขนั้นจะสามารถป้องกันมิให้น้ำฝนไหลซึมเข้าไปในตัวอาคารได้หรือไม่ ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2533 ซึ่งเป็นระยะเวลาเกินกว่า 1 ปีนับแต่วันที่โจทก์ได้รับมอบงานจ้างจากจำเลยตามสัญญาจ้าง แต่ยังอยู่ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่จำเลยส่งมอบงานที่จ้างแก่โจทก์โจทก์พบว่ามีน้ำฝนรั้วซึมจากบริเวณรอยแตกร้าวเดิม เนื่องจากจำเลยมิได้กระทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อยให้ถูกต้องตามหลักวิชาอันถือเป็นความชำรุดบกพร่องในการก่อสร้างของจำเลย โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยไปทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อย แต่จำเลยเพิกเฉยอันเป็นการผิดสัญญาจ้างโจทก์จึงจ้างบริษัทหลุยส์ ตี เลียวโนเวนส์(ประเทศไทย) จำกัด ทำการซ่อมแซมรอยแตกร้าวดังกล่าวคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 101,365 บาท ซึ่งจำเลยต้องชดใช้คืนให้โจทก์ตามสัญญาจ้าง โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระ แต่จำเลยเพิกเฉยดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัดจนถึงวันฟ้องคิดเป็นเงิน 5,068.25 บาทขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 106,433.25 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าได้ชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมตามที่กำหนดไว้ในแบบและรายการในสัญญาตามฟ้องทุกประการ เมื่องานเสร็จ จำเลยได้ส่งมอบงานให้โจทก์ตรวจรับ โจทก์ได้ตรวจรับงานตามสัญญาจ้างไว้โดยมิได้อิดเอื้อนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2530 การซ่อมแซมพื้นดาดฟ้าหลังคานั้น เป็นการซ่อมซ่อมเฉพาะบางส่วนของอาคารมิใช่ทำการซ่อมแซมอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างกับพื้นดินตามความมุ่งหมายในอันที่จะนำกำหนดอายุความที่ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันส่งมอบมาใช้บังคับ ตามสัญญาจำเลยจะรับผิดในความชำรุดบกพร่องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับมอบงาน เมื่อภายในกำหนดดังกล่าวมีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นน้ำฝนไหลซึมผ่านได้ จำเลยได้แก้ไขแล้ว เหตุแห่งความชำรุดบกพร่องที่โจทก์กล่าวอ้างมิใช่เกิดจากจำเลย จำเลยรับผิดในความชำรุดบกพร่องเพียง 1 ปี นับแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2530 ซึ่งเป็นวันส่งมอบงาน กรณีมิใช่การปลูกสร้างกับพื้นดินที่จะนำระยะเวลารับผิด 5 ปี มาใช้บังคับ เหตุแห่งความชำรุดบกพร่องเกิดขึ้นในระหว่างที่สัญญาของโจทก์กับจำเลยได้สิ้นสุดลงแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ได้คืนหลักประกันแก่จำเลยแล้ว ถือว่าโจทก์พอใจกับงานแก้ไขและเห็นว่าถูกต้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระหนี้ในความเสียหายที่เกิดขึ้นอีก ค่าซ่อมแซมที่โจทก์กับบริษัทหลุยว์ ตี เลียวโนเวนส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตกลงกันนั้นจำเลยไม่ขอรับรองว่าเป็นจำนวนเงินค่าซ่อมแซมที่แท้จริงขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 106,433.25 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าได้ชำระเสร็จ

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่งคดีคงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องภายใน 1 ปี หรือ 5 ปี นับแต่วันส่งมอบตามมาตรา 600 และฟ้องโจทก์ขาดอายุความ 1 ปี นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้นตามมาตรา 601 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่าตามหนังสือสัญญาจ้างตามเอกสารหมาย จ.3 ระหว่างโจทก์ที่ตกลงไว้กับจำเลยตามข้อ 1 มีข้อความให้จำเลยทำการปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคาซ่อมแซมห้องน้ำห้องส้วมให้ถูกต้องตามแบบรูปและรายการละเอียดที่แนบท้ายสัญญาทุกประการ และตามสัญญาข้อ 6เมื่องานแล้วเสร็จเรียบร้อยและผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานจ้างภายในกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่ได้รับมอบงาน จำเลยต้องรีบทำการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่โจทก์จะกำหนด ซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการที่ทำการปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคานั้นเป็นการที่ให้จำเลยทำการปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์มีอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่จำเลยต้องซ่อมแซมพื้นพาดฟ้าหลังคาที่มีการก่อสร้างอยู่ก่อนแล้วโดยมีข้อตกลงซ่อมดาดฟ้าที่ชำรุดบกพร่องที่ปรากฏขึ้นเท่านั้น คดีนี้โจทก์ยอมรับว่ารับมอบงานจ้างตามสัญญาในวันที่ 17 สิงหาคม 2530และขณะทำการตรวจรับงานไม่ปรากฎความชำรุดบกพร่องซึ่งต่อมาภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบงานงานที่ทำเกิดชำรุดบกพร่องจำเลยก็ได้ทำการซ่อมแซมให้โจทก์แล้ว ความชำรุดบกพร่องตามที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ปรากฏความชำรุดบกพร่องขึ้นใหม่อีกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2533 ซึ่งโจทก์ว่ายังอยู่ภายใน 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600 แต่จำเลยได้ให้การต่อสู้ไว้ในปัญหาเรื่องความหมายของสัญญาว่าจำเลยจะต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องเพียงแต่ที่ปรากฏขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่17 สิงหาคม 2530 ซึ่งเป็นวันส่งมอบงานเท่านั้น ดังนั้น จากข้อสัญญาดังกล่าวฟังได้ว่า ข้อจำกัดตามมาตรา 600 ที่ว่าถ้าการที่ทำนั้นเป็นสิ่งปลูกสร้างกับพื้นดิน จึงไม่หมายความถึงการปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคา ดังนั้น จำเลยผู้รับจ้างจึงต้องรับผิดเพื่อการที่ชำรุดบกพร่องเพียงแต่ที่ปรากฏขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าความชำรุดบกพร่องปรากฏขึ้นเมื่อพ้น 1 ปี นับแต่วันวันส่งมอบแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ และคดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาเรื่องอายุความอีกต่อไป

พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง

สรุป

ตามสัญญาจ้างปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคาซ่อมแซมห้องน้ำห้องส้วมของธนาคารโจทก์ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ก่อนแล้วจำเลยซึ่งเป็นผู้รับจ้างต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใน1ปีนับแต่วันที่โจทก์รับมอบงานเมื่อมีรอบแตกร้าวบนพื้นดาดฟ้าเกิดขึ้นภายใน1ปีจำเลยได้ซ่อมแซมและโจทก์รับมอบงานซ่อมแซมหน้าจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในรอยแตกร้ายเดิมที่เกิดขึ้นอีกเมื่อพ้น1ปีแล้วและความชำรุดบกพร่องอันเกิดจากการปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคาเช่นนี้ก็ไม่ใช่ความชำรุดบกพร่องที่เกิดจากสิ่งปลูกสร้างกับพื้นดินซึ่งผู้รับจ้างต้องรับผิดภายใน5ปีนับแต่วันส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา600วรรคแรกด้วย